THAILAND
0744386
วันนี้
เมื่อวานนี้
อาทิตย์นี้
อาทิตย์ที่แล้ว
เดือนนี้
เดือนที่แล้ว
ตลอดวันนี้
822
1633
4337
734416
31161
31256
744386

ไอพีของคุณ: 192.168.102.1
2024-03-29:04
Visitors Counter

JBGMusic

บึงบอระเพ็ด
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด
ยอดเขาโมโกจู
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
น้ำตกคลองลาน
อุทยานแห่งชาติคลองลาน
น้ำตกเต่าดำ
อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า
ถ้ำเพชร-ถ้ำทอง
วนอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง
เขาหลวง
วนอุทยานเขาหลวง
หุบป่าตาด
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน
น้ำตกเต่าดำ
อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า
ลำน้ำคลองสวนหมาก
อุทยานแห่งชาติคลองลาน
ลำน้ำคลองสวนหมาก
อุทยานแห่งชาติคลองลาน
สบอ.12 ร่วมโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนจังหวัดนครสวรรค์
วันที่ 17 ธันวาคม 2563 เวลา 8.00-12.00 น. ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ ร่วมกับศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ร่วมโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นโครงการฯที่ส่วนราชการระดับจังหวัดได้นำนิทรรศการ สื่อประชาสัมพันธ์ และการบริการด้านต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนไม่ต้องไปติดต่อที่จังหวัด และยังได้เป็นโอกาสพบปะเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีและสร้างความพึงพอใจให้แก่ประชาชน โดยมีนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานในพิธี ณ อบต.หนองกรด หมู่ที่ 4 ตำบลหนองกรด อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ทั้งนี้ มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมออกหน่วยตามโครงการฯ คือ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครสวรรค์ ได้ผลิตน้ำหมักชีวภาพ เอกสาร แผ่นพับ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 4 นครสวรรค์ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการคัดแยกขยะ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม แจกแผ่นพับ น้ำหมักชีวภาพ และนำต้นขนุนมาแจกให้ประชาชน สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 นครสวรรค์ นำกล้าไม้มาแจกให้กับประชาชน และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการช่วยเหลือสัตว์ป่าพลัดหลง และนำสติ๊กเกอร์สายด่วนกรมอุทยานฯ 1362 จุลสารสบอ.12 โปสเตอร์โรคไข้หวัดนก แหล่งท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด และนำกล้าไม้ เช่น ต้นหว้า ต้นมะม่วงป่า ต้นพฤกษ์แจกให้กับประชาชนที่มาใช้บริการอีกด้วย

 
สบอ.12 เข้าร่วมประขุมโดยระบบการประชุมทางไกล(VDO Conference) รับการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย ของ รมว.ทส มอบนโยบายกรมอุทยานแห่งชาติฯ เน้นการดำเนินงานแบบ ยกกำลัง 2 บวก 4 รวมกันเป็น ทส. หนึ่งเดียว มุ่งผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ
วันที่ 14 ธันวาคม 2563 เวลา 13.00 น. นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เข้าร่วมประชุมรับการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปอาชา) เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด้านป่าไม้และสัตว์ป่าในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ ทุกด้าน รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ โดยมี นายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ตลอดจนคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมประชุมรับมอบนโยบาย ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารอเนกประสงค์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยสรุปได้ว่า
1. รมว.ทส. กล่าวว่า ปัญหาด้านทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องมีความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนด้วยความตระหนักและมีการปฏิบัติอย่างเป็นเอกภาพ จึงจะสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย การดำเนินงานในปี 2564 การบริหารจัดการงานทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า อยากให้ขับเคลื่อนงานเดิมให้มีประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนงานใหม่ให้ดีขึ้นโดยยึดนโยบายของรัฐบาลและนโยบาย “ทส.ยกกำลัง 2 + 4” สำหรับการยกกำลัง 2 เป็นการเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานได้และมีศักยภาพหรือสมรรถนะของเจ้าหน้าที่ เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนและเครือข่าย เพิ่มเติมเครื่องมืออุปกรณ์มุ่งการประชาสัมพันธ์ให้คนรุ่นใหม่สนใจงานทรัพยากรป่าไม้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเช่น Application และ Platform
โดยบวก 4 นั้น หมายถึง บวกที่ 1 คือ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ บวกที่ 2 คือ การมีส่วนร่วมของประชาชน บวกที่ 3 คือ แสวงหาความรู้ตามหลักวิชาการ ข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยี และ บวกที่ 4 คือ ยึดหลักธรรมาภิบาลในการปฏิบัติราชการ ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสริมสร้างองค์ความรู้ของตนเองในหลาย ๆ มิติ รวมไปถึงการติดตามเทคโนโลยี ข่าวสารเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อนำมาพัฒนาการทำงาน ซึ่งขอให้นำทุกสิ่งมารวมเป็น ทส. หนึ่งเดียว เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ
2. รมว.ทส. ได้เน้นย้ำว่า “อส. ต้องดูแลพื้นที่อุทยานซึ่งเป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นแหล่งสร้างรายได้ให้ประเทศ สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน เป็นสถานที่พักผ่อนให้กับทุกคน ความสำเร็จของ อส. ไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงิน แต่อยู่ที่ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ สัตว์ป่า และความสุขของนักท่องเที่ยว
3. ให้วางมาตรการในการกำหนดปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปในแต่ละจุด เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และได้รับความสุขอย่างเต็มที่ทุกคน ความประทับใจจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์เกินกว่าที่คาดหวังไว้ เราต้องดูแลอุทยานที่รับผิดชอบให้ดี”
4. เน้นย้ำอุทยานแห่งชาติต้องรักษาความสะอาดของห้องน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงการจัดการขยะในพื้นที่อุทยาน ไม่ทิ้งขยะเกลื่อนกลาด จนทำให้สัตว์ป่าออกมากัดกิน ขอให้ใส่ใจถือเป็นเรื่องสำคัญ
5. การเบิกจ่ายเงินเดือนของ TOR ให้เป็นไปตามกำหนดระยะ หากติดขัดปัญหาด้านใด ให้รีบดำเนินการแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
6. เจ้าหน้าที่ในส่วนภูมิภาค ถือเป็นผู้ใกล้ชิดและเข้าถึงประชาชนมากที่สุด การแต่งชุดเครื่องแบบ ต้องให้ประชาชนรู้สึกอบอุ่น เป็นเจ้าหน้าที่ที่มาปกป้อง ดูแล ช่วยแก้ไขปัญหา เพราะฉะนั้น จึงควรสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อประชาชนซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงสร้างความรับรู้ความเข้าใจกับภารกิจที่ทำให้ประชาชนได้เข้าใจ ซึ่งจะนำมาซึ่งความร่วมมือในการปฏิบัติงานให้ราบรื่น
7. การใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของอุทยานว่า “การอนุรักษ์กับการพัฒนา เป็นเรื่องคนละขั้วกัน แต่มันจะต้องไปควบคู่กัน” และย้ำอีกว่า “ทส.ยกกำลัง 2 + 4 เราอาจจะต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อสร้างความสุขให้ประชาชนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว”
8. ปลัดกระทรวงฯ ได้กล่าวเสริมในช่วงท้ายว่า “ต่อไปอาจจะต้องให้นักท่องเที่ยวกรอกข้อมูลโรคประจำตัว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของอุทยานเฝ้าระวังและสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที เมื่ออาการของโรคเกิดขึ้น นั่นคือความใส่ใจที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีให้กับนักท่องเที่ยว”
การประชุมครั้งนี้ นายธวัชชัย เพชระบูรณิน รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 พร้อมด้วยผู้อำนวยการส่วนฯ หัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้าฝ่าย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมรับมอบนโยบายผ่านการประชุมทางไกล (VDO Conference) ณ ห้องประชุมดรุพันพิทักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12


วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 จังหวัดนครสวรรค์ ได้มอบหมายให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับผิดชอบการควบคุมลิง และสัตว์ป่าอื่นๆ ไม่ให้ออกมาจากป่า ให้กับประชาชนในพื้นที่รับเสด็จ และบริเวณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินทรงงาน ณ วัดช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อทรงถวายผ้าป่าสามัคคี ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน และทรงเยี่ยมราษฎร เมื่อเสร็จจะเสด็จพระราชดำเนินไปที่โครงการพัฒนาสระบ่อดินขาว เมื่อถึงเสด็จเข้าพลับพลาที่ประทับ แล้วทรงปลูกต้นรวงผึ้ง 1 ต้น (สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงปลูกต้นรวงผึ้ง 1 ต้น ด้วย) ทรงปล่อยปลา จากนั้นเสด็จทรงเยี่ยมราษฎร
ทางสบอ.12 ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า จากหน่วยงานในสังกัด จำนวน 63 นาย เข้ากระจายกำลังอยู่ริมป่า รอบแนวเขตวัด คอยพลักดันฝูงลิง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 300 ตัว
ผลปรากฎว่า สามารถควบคุมฝูงลิงในพื้นที่เป้าหมาย ไม่ให้ออกมาได้เรียบร้อย ทั้งนี้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ และทีมงานสัตวแพทย์ มาวางแผนและจัดการล่วงหน้า ก่อนหน้านี้ต่อเนื่องมา 5 วัน แล้ว โดยมอบหมายให้นายจิระเดช บุญมาก หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด เป็นหัวหน้าชุดสนามปฎิบัติการ
Credit ภาพ : หน่วยงานในสังกัดสบอ.12(นครสวรรค์), กระทรวงมหาดไทย pr, สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์

สบอ.12 ร่วมใจบริจาคโลหิต
วันที่ 2 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 – 12.00 น. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ร่วมกับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์ และโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2563 เพื่อนำโลหิตที่ได้รับไปช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และโรงพยาบาลในจังหวัดใกล้เคียง โดยมีข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ผู้มีจิตอาสาสมัครมาลงทะเบียน เพื่อขอบริจาคโลหิต จำนวน 136 ราย ผ่านการคัดกรองสามารถบริจาคได้ 108 ราย ได้โลหิตจำนวน 108 ยูนิต (ถุง) ณ ห้องประชุมดรุพันพิทักษ์ บริเวณบ้านพักผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ทั้งนี้ การรับบริจาคโลหิตของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ก่อนการเข้ารับการบริจาคโลหิต และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้จัดกิจกรรมทำความดี ด้วยหัวใจ ร่วมกันบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล ต่อเนื่องเสมอมา ปีละอย่างน้อย 3 ครั้ง ในเดือน เมษายน สิงหาคม และ ธันวาคม ของทุกปี ต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว

 

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) จัดกิจกรรมวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2563 ตามหนังสือสั่งการของ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 เจ้าหน้าที่ สบอ.12(นครสวรรค์)  พร้อมใจกันบำรุงรักษาต้นทองอุไร ในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2563  เนื่องในวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2563 และหน่วยงานภาคสนาม จำนวน 27 หน่วยงาน  จัดกิจกรรมวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2563 ที่เคยปลูกไว้ในโอกาสวันสำคัญต่างๆ โดยมีผู้ร่วมกิจกรรม จำนวน 824 คน เนื้อที่บำรุงรักษา 112.73 ไร่ โดยทำการบำรุงรักษาต้นไม้ จำนวน 4,540 ต้น


การจัดกิจกรรมวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2563 
ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ในวันที่ 22 ตุลาคม 2563 เริ่มเมื่อเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์)  จำนวน 209 คน มาเข้าแถวพร้อมกัน ณ. สนามหญ้า หน้าสำนักงานที่ทำการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) จากนั้น นายปรยุษณ์  ไวว่อง ผู้อำนวยส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กล่าวรายงานถึงความเป็นมาของกิจกรรม นายธวัชชัย เพชระบูรณิน  ผอ. ส่วนอุทยานแห่งชาติ  ผู้แทน นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์) เปิดกรวยถวายราชสักการะแด่องค์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และกล่าวเปิดโครงการ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แยกย้ายกันไปใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน ตัดแต่งกิ่งทรงพุ่มต้นทองอุไร  ต้นที่ตนเองเคยปลูกไว้  รวม 469 ต้น  ณ บริเวณสำนักงานสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 บริเวณ บ้าน 120 ปี วิถีไม้สักไทย  A.W.Cooper และบริเวณบ้านพักข้าราชการ รวมเนื้อที่ที่ได้บำรุงรักษาต้นไม้ประมาณ 10 ไร่
เมื่อบำรุงรักษาต้นทองอุไร เสร็จ ได้ช่วยกันตัดแต่งกิ่งและตัดแต่งทรงพุ่ม ต้นพะยูง ต้นเฟื่องฟ้า ต้นอินทนิล และต้นไม้อื่น ๆ  รอบๆ สำนักงาน และร่วมกันเก็บขยะรอบรั้ว แนวถนน และบ้านพักข้าราชการ  จนสะอาดเรียบร้อยบริบูรณ์

ในการจัดกิจกรรมในวันนี้ ได้จัดให้มีการประกวดภาพถ่าย การบำรุง รักษา ต้นทองอุไรของตนเอง ชิงรางวัลมูลค่ารวม 1,000  บาท  เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ โดยผู้ได้รับรางวัลที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 คือ นางสาวเมรญา บางบน นางสาววีรยา โอชะกุล และ นางสาวภรสราง ดำรงรัตน์ ตามลำดับ 

วัตถุประสงค์ในการ จัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สร้างความสามัคคี สร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ทรัยากรป่าไม้ เป็นการช่วยปลูกฝังจิตสำนึกของเจ้าหน้าที่ให้รักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ และเพื่อบำรุงรักษาต้นไม้ให้เจริญงอกงามอยู่รอดเป็นไม้ใหญ่ ตลอดจนเพื่อสร้างความร่มรื่นและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับแผ่นดินต่อไป และรวมทั้งได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของชาติ ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน


หน่วยงานภาคสนาม

LineHorizonGif